กลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาว
การเทรดทองคำด้วยวิธีที่ปลอดภัยและให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ก็คือ การใช้กลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาวหรือกลยุทธ์ Position Trading ซึ่งมีความแตกต่างจากการเทรดทองคำระยะสั้นในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลา รูปแบบการศึกษาเทรนของตลาด ปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการนำปัจจัยทางเทคนิคเข้ามาร่วมด้วย การเทรดระยะยาวจะต้องอาศัยความอดทน มีความพร้อมในเรื่องการวางแผนและการบริหารเงินทุน บทความนี้เราจะแนะนำให้รู้จักการเทรดทองคำระยะยาว ว่าคืออะไร ดีอย่างไร ปัจจัยที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญ กลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาวที่ได้รับความนิยม ข้อดีข้อเสียของกลยุทธ์ และเทคนิคการเทรดระยะยาว ที่จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่ได้ค้นหาว่าตนเองเหมาะกับการเทรดประเภทนี้หรือไม่
ทำความเข้าใจกับการเทรดทองคำระยะยาว Long Term Trading
เราได้ทราบไปแล้วว่า Position Trading ก็คือ กลยุทธ์การเทรดระยะยาว ที่นี้เราจะมาทำความเข้าใจกับการเทรดระยะยาว Long Term Trading เป็นการเทรดอีกประเภทที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนไม่แพ้การเทรดระยะสั้น ความแตกต่างของการเทรดระยะยาวและการเทรดระยะสั้น Short Term Trading ที่ชัดเจนก็ต้องเป็นเรื่องเวลาของการถือครองทองคำที่ยาวนานกว่า และเพื่อให้นักลงทุนมองเห็นภาพรวมของการเทรดระยะยาวได้มากขึ้นจะขอแนะนำความหมาย ข้อดีและปัจจัยที่สำคัญของการเทรดทองคำระยะยาว
การเทรดทองคำระยะยาวคืออะไร
- เป็นการเทรดทองคำประเภทหนึ่งที่มีการถือ position เป็นระยะเวลาที่ยาวนานตั้งแต่หลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือน หรือหลายปี
- ต้องอาศัยความอดทน มีกลยุทธ์ในการวางแผนที่ดีและบริหารอย่างแม่นยำเพื่อให้ได้ผลกำไรตามเป้าหมาย
- ประหยัดต้นทุนในส่วนของการทำธุรกรรมการเงินเนื่องจากมีการฝากถอนเงินไม่บ่อยครั้งมากนัก
- จะต้องอาศัยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิค และอารมณ์ของตลาดร่วมกันในการบริหารพอร์ต
- ความเสี่ยงที่พบบ่อย ก็คือ การมีสภาพคล่องต่ำและการกลับตัวของแนวโน้มหลักซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องได้
- ต้องมีการวางแผนบริหารเงินทุนในระยะยาวเพื่อประเมินความเสี่ยงในการลงทุน และมีทุนสำรองที่สูง
การเทรดทองคำระยะยาวดีอย่างไร
- ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยที่สุดให้ผลตอบแทนสูงถึงปีละมากกว่า 7% เหมาะอย่างยิ่งในการเทรดระยะยาว
- มีความเครียดน้อยกว่าเพราะว่าไม่ต้องคอยลุ้นและกังวลกับการขึ้นลงของราคา และราคาทองคำมักจะมีเทรนหลักเป็นเทรนขาขึ้น
- นักลงทุนมีเวลามากกว่าการเทรดระยะสั้นเนื่องจากไม่ต้องเฝ้าหน้าจออยู่ตลอดเวลา
- มีความเสี่ยงน้อยกว่าการเทรดระยะสั้นเนื่องจากไม่ต้องเจอกับความผันผวนของราคา มีการวางแผนและประเมินความเสี่ยงเป็นอย่างดีเนื่องจากไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบของเวลา
- ใช้ทุนน้อยกว่าแต่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการเทรดระยะสั้นที่ทำกำไรได้ครั้งละเล็กน้อยแต่ลงทุนบ่อยครั้งเพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยงสูง
- ขาดทุนน้อยกว่าเนื่องจากระยะเวลาในการลงทุนที่ยาวนาน ทำให้สามารถหาจังหวะ Stop Loss ด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายได้มากกว่า
ปัจจัยที่สำคัญของการเทรดทองคำระยะยาว
- มีความอดทน ในการมองหาโอกาสทำกำไรที่จะเกิดขึ้นในตลาดทองคำเป็นระยะเวลาที่ยาวนานตั้งแต่หลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายปี
- มีระเบียบวินัย ในแนวทางการลงทุนที่ได้วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดตามแผน การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และความอดทนต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดการเทขาย
- มุ่งเน้นไปที่การทำกำไรระยะยาว Position trader ที่ประสบความสำเร็จจะมุ่งเน้นหากำไรจากเทรนหลักของตลาดมากกว่าการลงทุนกับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น
- เข้าใจปัจจัยพื้นฐานทางการเงินที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก เช่น อัตราการว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และการเมือง
- มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญที่จะทำให้มองหาโอกาสจากเทรนของตลาดทองคำในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
- การวางแผนการเงินที่ดีเนื่องจากการเทรดทองคำระยะยาวจะต้องมีค่าใช้จ่ายพื้นฐานอย่างค่าสวอป
- ฝึกฝนการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น การวิเคราะห์กราฟด้วยไทม์เฟรมต่าง ๆ หรือการใช้ Indicator
แนะนำกลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาว Position Trading
ขอนำเสอนกลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาวที่นักลงทุนต่างลงความเห็นกันว่าเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีทั้งหมด 4 กลยุทธ์ด้วยกัน
Support and Resistance Trading
- หัวใขสำคัญของกลยุทธ์นี้ก็คือ แนวรับและแนวต้าน
- แนวรับคือราคาที่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะดึงดูดให้นักลงทุนสนใจเข้าซื้อในปริมาณที่มากพอจนสามารถชนะแรงขายได้จนเกิดจุดกลับตัวจากเทรนขาลงสู่เทรดขาขึ้น ส่วนแนวต้านจะมีรูปแบบตรงข้ามมีแรงขายมากกว่าแรงซื้อที่จะทำให้เกิดการกลับตัวจากเทรดขาขึ้นสู่เทรนขาลงได้
- วิธีการระบุแนวรับและแนวต้าน ได้แก่ อาศัยข้อมูลจุดเปลี่ยนเทรนในอดีตของตลาด, การใช้แนวรับแนวต้านที่เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วยบ่งบอกแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต, การใช้ trendline และการใช้ Indicator อย่าง Fibonacci retracements หรือ moving averages
- เทรดเดอร์จะทำการค้นหาแนวรับแนวต้านใหม่จากการไฮไลท์พื้นที่ของแนวรับแนวต้าที่เกิดขึ้นก่อนหน้าซึ่งจะใช้ไทม์เฟรมแบบรายวัน รายสัปดาห์หรือรายเดือน โดยใช้แนวโน้มที่กว้างขึ้นและเข้าซื้อเมื่อราคาเคลื่อนไหวไปจึงจุดที่วางแผนไว้จากนั้นก็มองหาแนวรับและแนวต้านที่สำคัญเพื่อทำกำไรให้ได้ตามเป้าหมาย และมีการกำหนดจุด Stop Loss ที่สูงกว่าจุดที่เข้าซื้อ
Breakout Trading
- มีความเข้าใจในเรื่องของแนวรับและแนวต้านเพื่อที่จะระบุแนวรับแนวต้านที่ถูกต้อง
- เข้าซื้อขายเมื่อราคาตลาดทะลุแนวต้านก่อนหน้า และทำการขายเมื่อราคาต่ำกว่าแนวรับถัดไป
- เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ช่วยค้นหาเทรนหลักของตลาด
Pullback Trading
- เป็นการทำกำไรจากแนวโน้มรองที่เกิดขึ้นภายในแนวโน้มหลัก
- ใช้จุดแนวรับก่อนหน้าเป็นเกณฑ์เข้าซื้อเมื่อเกิดการเทขายทะลุจุดแนวรับและทำกำไรหากราคาไปถึงแนวต้านที่อยู่ในระดับเดียวกับแนวรับก่อนหน้า
- ตัวอย่าง เช่น เทรนหลักกำลังเป็นขาลงมีการเทขายจนทะลุแนวรับก่อนหน้าแล้วมีแรงซื้อกลับเข้ามาเมื่อราคาดีดขึ้นไปจากแนวรับก่อนหน้าที่ตอนนี้กลายเป็นแนวต้านปัจจุบันจุดนี้นักลงทุนก็จะทำการเทขายเพื่อทำกำไร
Triple Moving Averages
- ใช้ Indicator ที่ชื่อว่า exponential moving average (EMA) เข้ามาช่วยในการหาเทรน จุดซื้อขาย และจุด Stop Loss
- มีการใช้ EMA ทั้งหมด 3 เส้น ก็คือ เส้น EMA ระยะสั้น ( 20 Period) เส้น EMA ระยะกลาง ( 50 Period) และ เส้น EMA ระยะยาว ( 200 Period) การแสดงผลร่วมกันทั้ง 3 เส้นทำให้เราสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาล่าสุดและเทรนที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวได้
- จุดที่เข้าซื้อขายก็คือ จุดที่เส้นระยะสั้นและเส้นระยะยาวตัดกัน แต่จะให้ดีที่สุดควรรอให้เส้นระยะสั้นและระยะกลางทะลุผ่านเส้นระยะยาวไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อยืนยันว่าโมเมนตัมกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น
- วางจุด Stop Loss เหนือเส้นระยะยาว
- ตามทฤษฎีจุดที่ทำกำไรก็คือ จุดที่เส้น EMA ตัดกันด้านบนอีกครั้ง
- เป็นการทำกำไรจากแนวโน้มรองที่เกิดขึ้นภายในแนวโน้มหลัก
- ใช้จุดแนวรับก่อนหน้าเป็นเกณฑ์เข้าซื้อเมื่อเกิดการเทขายทะลุจุดแนวรับและทำกำไรหากราคาไปถึงแนวต้านที่อยู่ในระดับเดียวกับแนวรับก่อนหน้า
- ตัวอย่าง เช่น เทรนหลักกำลังเป็นขาลงมีการเทขายจนทะลุแนวรับก่อนหน้าแล้วมีแรงซื้อกลับเข้ามาเมื่อราคาดีดขึ้นไปจากแนวรับก่อนหน้าที่ตอนนี้กลายเป็นแนวต้านปัจจุบันจุดนี้นักลงทุนก็จะทำการเทขายเพื่อทำกำไร
Indicator ของกลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาว
นอกจากกลยุทธ์ที่ได้แนะนำไปข้างต้นแล้ว เทรดเดอร์สามารถใช้ Indicator ทางเทคนิคมาเป็นตัวช่วยในการเทรดให้ดีขึ้น ขอแนะนำ Indicator ยอดนิยมได้แก่
- Relative Strength Index (RSI) วิเคราะห์การซื้อหรือการขายที่มีมากเกินไป ช่วยให้นักลงทุนมองเห็นจุดกลับตัว
- Bollinger Bands ใช้สำหรับดูแนวโน้มของราคา และวัดความผันผวนของตลาด
- On Balance Volume (OBV) วัดปริมาณการซื้อขายสะสม ใช้วัดแรงซื้อแรงขายที่เกิดขึ้นเพื่อยืนยันแนวโน้มของเทรน รวมไปถึงการหาจุดกลับตัวของราคา
ข้อดีของกลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาว
- เป็นการเทรดที่มีความปลอดภัยและสร้างผลตอบแทนที่มหาศาล
- สามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวราคาที่ปริมาณมากในช่วงเวลาหลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน
- ไม่ต้องมอนิเตอร์กราฟอยู่ตลอดเวลาทำให้มีความเครียดน้อยกว่าการเทรดระยะสั้น
- สามารถใช้ทักษะที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสร้างอาชีพเสริมได้
- มีตัวช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลายช่วยให้มองเห็นเทรนที่กำลังจะเกิดขึ้น
ข้อเสียของกลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาว
- ต้องใช้เงินเย็นในการลงทุนสูงเพื่อรักษาออเดอร์ที่เปิดไว้ยืนระยะไปให้ถึงเป้าหมาย
- มีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากค่าสวอปเนื่องจากเปิดสถานะซื้อไว้เป็นเวลานาน แนะนำเลือกโบรกเกอร์ที่ฟรีค่าสวอป
- เป็นการกองเงินไว้กับทองคำเป็นเวลานาน แนะนำว่าควรวิเคราะห์ความเสี่ยงและบริหารพอร์ตให้ดี
- ต้องมีทุนสำรองที่สูงหากเกิดการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มของราคาที่สูงในระยะเวลาอันสั้น โดยแนวโน้มสวนทางจากที่วางแผนไว้
เคล็ดลับการเทรดทองคำระยะยาว
เป็นเคล็ดลับที่น่าสนใจที่จะช่วยป้องกันนักลงทุนจากความผิดพลาดที่เกิดจากการเทรดทองคำในระยะยาว
- มีมุมมองที่ถูกต้อง การเทรดทองคำระยะยาวนั้นมีความแตกต่างจากการเทรดระยะสั้นที่ต้องอาศัยความอดทน ทักษะการคิดวิเคราะห์ และความเชื่อมั่นใจตนเอง ที่จะพาให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้
- มีความชัดเจน เมื่อทำการวิเคราะห์เรียบร้อยแล้วว่าจะเข้าซื้อที่จุดไหน จะต้องกำหนดจุดทำกำไรและจุด Stop Loss ให้เรียบร้อยเพื่อประเมินความเสี่ยง
- ทดลองให้มั่นใจ ควรเริ่มต้นจากบัญชีทดลองก่อนเพื่อที่จะสามารถศึกษากลยุทธ์ต่าง ๆ ให้เข้าใจ และเมื่อมั่นใจแล้วทำการเปิดบัญชีจริงเพื่อเริ่มต้นเทรดจริง
- ติดตามกราฟรายสัปดาห์ การเทรดระยะยาวไม่ต้องมอนิเตอร์กราฟตลอดเวลาแค่เพียงวิเคราะห์เทรนแบบรายสัปดาห์ก็คือว่าเพียงพอในการเห็นความเคลื่อนไหวของตลาด
บทสรุปกลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาว
การใช้กลยุทธ์การเทรดทองคำระยะยาวนั้นค่อนข้างมีความอดทนพอสมควร แต่ก็มีความปลอดภัยสูงสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเทรดด้วยทองคำ แต่จะดีกว่าหากเริ่มต้นจากการเทรดแบบ Swing Trading ที่มีระยะเวลาในการเทรดไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป เพื่อที่นักลงทุนจะมองเห็นภาพรวมของต้นทุนที่จะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนก่อนที่จะวางแผนการลงทุนในระยะยาว รวมไปถึงการค้นหาและเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมให้กับตนเองได้ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างสำหรับการลงทุนระยะยาวก็คือ เงินลงทุนต้องเป็นเงินเย็นและมีทุนสำรองมากพอที่จะบริหารพอร์ตให้ไปถึงตามเป้าหมายที่ต้องการได้