“ทองคำชนะเงินเฟ้อได้” หมายความว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี ด้วยศักยภาพข้อนี้ทำให้นักลงทุนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบเศรษฐกิจ ต่างสนใจศึกษาราคาทองคำและความสัมพันธ์กับดัชนีเงินเฟ้อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลคาดการแนวโน้มราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำได้แม่นยำขึ้น
ตัวอย่างเช่น ในปี 2014 ราคาทองคำต่อออนซ์อยู่ที่ 1,199.25 ดอลลาร์ ผ่านมาปี 2024 ราคาทองคำต่อออนซ์อยู่ที่ 2,291.57 ดอลลาร์ จะเห็นว่าปริมาณทองคำเท่าเดิมแต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น จากตัวอย่างพบว่าทองคำนอกจากจะรักษามูลค่าของตัวทองคำเองไว้ได้แล้วราคาทองคำยังสะท้อนให้เห็นดัชนีเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
เงินเฟ้อคืออะไร
- เงินเฟ้อคือ การที่ราคาสินค้าหรือบริการค่อย ๆ แพงขึ้นทีละน้อย หรือ กำลังซื้อของเงินที่ลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจ
- การติดตามอัตราเงินเฟ้อ คือ การเฝ้าติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI : Consumer Price Index) หรือวัดการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่คนเราใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
- ราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ใช้คำนวณหาอัตราเงินเฟ้อนั้น แต่ละประเทศหรือแต่ละเมืองอาจจะสุ่มตัวอย่างมาไม่เหมือนกัน เช่น เมื่อปี 2000 น้ำมันลิตรละ 14.69 บาท ปี 2024 น้ำมันลิตรละ 48.24 บาท เป็นต้น
- การสุ่มตัวอย่างสินค้ามาวัดเงินเฟ้อนั้นอาจจะสุ่ม 200 รายการหรือมากกว่านั้น และบริการก็เช่นกัน
- ตัวอย่าง ตัวเลขดัชนีสำคัญที่เกี่ยวกับดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
- CPI (Consumer Price Index) ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือตัวเลขที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในภาคครัวเรือนของเขตเมือง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อของแต่ละช่วงเวลา
- PPI (Producer Price Index) ดัชนีราคาผู้ผลิต เป็นตัวเลขที่ใช้เป็นการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าที่ผู้ผลิตได้จัดจำหน่าย ถือว่าเป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากฝั่งผู้ผลิต
- PCE Price Index ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล ตัวเลขวัดค่าการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคได้สั่งซื้อไม่รวมอาหารและพลังงาน ตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
- ระดับอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 % หากอัตราเงินเฟ้อสูงกว่านี้ก็จะเริ่มส่งผลกระทบ เช่น มีการกักตุนสินค้าไว้เกร็งกำไรระยะสั้นเกิดขึ้นจนทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าฉวยโอกาสขึ้นราคา
ภาวะเงินเฟ้อเกิดจากอะไร
การเกิดภาวะเงินเฟ้อสามารถเกิดได้ 2 แบบดังนี้
- Demand Pull เมื่อมีรายได้มากขึ้นจึงมีความต้องการสินค้านั้น ๆ มากขึ้นส่งผลให้ราคาสินค้าแพงมากขึ้น
- ตัวอย่างแรก เดิมค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทเพิ่มเป็น 400 บาท เมื่อมีรายได้มากขึ้นก็มีกำลังซื้อมากขึ้น แต่จำนวนสินค้าและราคาในระบบยังเท่าเดิม ส่งผลให้เกิดการแย่งกันซื้อทำให้เจ้าของสินค้าเพิ่มราคาขึ้นเพื่อเกร็งกำไร
- ตัวอย่างที่สอง ที่เมือง Seattle ราคาอสังหาริมทรัพย์ราคาแพงเป็นพิเศษ เพราะมี 2 บริษัทยักษ์มาตั้งคือ Amazon กับ Microsoft ที่จ่ายเงินเดือนพนักงานสูงมาก ส่งผลให้ค่าครองชีพเมืองนี้สูงไปด้วย
- Cost Push ต้นทุนสินค้ามีราคาแพงขึ้น
ตัวอย่าง ค่าน้ำมันแพงขึ้น, ค่าน้ำมันแพงขึ้น, ค่าทางด่วนแพงขึ้น หรือค่าน้ำตาลแพงขึ้น เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าต้องเพิ่มราคาสินค้าให้แพงขึ้นเพื่อที่จะมีกำไรให้กิจการอยู่รอด

อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นมีผลกระทบต่ออะไรบ้าง
- นโยบายการเงิน
- ธนาคารกลางจะเป็นผู้ดูแลนโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศ ธนาคารกลางของประเทศไทย คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารกลางของสหรัฐ ก็คือ เฟด นั่นเอง
- เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเกินกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสม ธนาคารกลางจะแก้ปัญหาด้วยการขึอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นให้คนต้องการฝากเงินมากขึ้นและลดความต้องการการลงทุน
- การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนี้ เป็นการดึงเงินที่มีอยู่จำนวนมากจนเกิดเงินเฟ้อให้ออกจากระบบ ลดความร้อนแรงในการขยายของเศรษฐกิจ เป็นวิธีรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
- ช่วยรักษาราคาสินค้าไม่ให้สูงจนเกินไปและช่วยรักษากำลังซื้อของผู้บริโภคให้ยังอยู่ในระดับที่รับได้ อีกทั้งลดปัญหาการเพิ่มค่าแรงงานซึ่งจะส่งผลระยะยาวต่ออัตราเงินเฟ้อ
- นโยบายการคลัง
- รัฐบาลจะมีนโยบายในการจัดการอัตราเงินเฟ้อด้วยการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ามาในระบบ เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนหรือผู้บริโภค
- เข้าควบคุมราคาสินค้าบางประเภทที่สูงมากเกินไป
- ผู้ประกอบการ
- อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นจากฝั่งผู้ประกอบการก็คือ สินค้าหรือบริการที่มีปริมาณจำกัดแต่ความต้องการของผู้ซื้อมากขึ้นส่งผลให้มีการเพิ่มราคาเพื่อเกร็งกำไร
- เมื่อทำกำไรจากสินค้าได้มากขึ้นก็เกิดความต้องการขยายกิจการเพื่อเพิ่มกำลังผลิตสินค้าให้สามารถทำกำไรได้มากขึ้น
- เมื่อธนาคารกลางเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและรัฐบาลเพิ่มภาษีมูลค่า ก็ทำให้เกิดการชะลอตัวในการขยายกิจการของผู้ประกอบการ เนื่องจากมีต้นทุนในการผลิตเพิ่มมากขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยและภาษี
- เมื่อผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าและภาษีมูลค่าเพิ่มก็ลดการใช้จ่ายลง ส่งผลให้ต้องการสินค้าลดลง ทำให้ต้องลดราคาสินค้าลงมาให้เหมาะสม หากราคาสูงมากอาจไม่มีใครซื้อ
- ผู้บริโภค
- อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเกิดจากรายได้ที่มีมากขึ้นแล้วต้องการจับจ่ายใช้สอยจนส่งผลให้ราคาสินค้าแพงมากขึ้น
- เมื่อสินค้าแพงขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น หรือลดความสามารถในการซื้อสินค้าชนิดเดิมในปริมาณเท่าเดิมแต่มีราคาเพิ่มขึ้น โดยที่ยังมีรายได้เท่าเดิม
- ตัวอย่างเช่น ต้นปีราคาน้ำมันลิตรละ 30 บาท กลางปีราคาน้ำมันเพิ่มเป็นลิตรละ 40 บาท ใช้จำนวน 10 ลิตรต่อเดือน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 100 บาท
- เมื่ออัตราดอกเบี้ยและภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
- ส่งผลให้ของแพงขึ้นแต่รายได้เท่าเดิมทำให้คนประหยัดมากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายหรือเก็บเงินฝากธนาคารเพื่อเกร็งกำไรจากดอกเบี้ย มีความต้องการในสินค้าลดลง
- คนที่มีหนี้ในระบบ เช่น คนที่กำลังผ่อนบ้าน ก็จะพบกับปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้มีหนี้เพิ่มขึ้น
- หากอัตราเงินเฟ้อสูงมากเกินไปอาจจะมีการเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรงมากขึ้นเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

ทองคำกับเงินเฟ้อมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
จากการศึกษาอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านจะพบว่าผลกระทบที่รุนแรงของอัตราเงินเฟ้อ ก็คือ ค่าเงินลดมูลค่าลง นั่นเอง การเก็บเงินสดในระยะยาวจึงไม่สามารถรักษามูลค่าของเงินไว้ได้ วิธีเดียวก็คือ การลงทุนในสินทรัพย์ที่เติบโตไปกับอัตราเงินเฟ้อได้ นั้นก็คือ การลงทุนในทองคำนั่นเอง
เปรียบเทียบราคาทองกับอัตราเงินเฟ้อ 10 ปีย้อนหลัง



ความสัมพันธ์ของทองคำกับอัตราเงินเฟ้อ
- รักษามูลค่าได้
- จากกราฟเปรียบเทียบราคาทองคำกับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปี 2014 ถึง 2024 จะพบว่าราคาทองคำกับอัตราเงินเฟ้อมีการเติบโตที่ควบคู่กันไป ซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีในการชนะเงินเฟ้อ
- จากกราฟจะพบว่าทองคำสามารถรักษามูลค่าในตัวเองได้ เนื่องจากเทรนด์ระยะยาวราคาทองคำมีแนวโน้มสูงขึ้น
- ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
- ทองคำบนโลกมีปริมาณที่จำกัดและต้นทุนการผลิตสูง ส่งผลให้เกิดอุปทานและมูลค่าที่แท้จริงมีจำกัด
- การรักษามูลค่าของเงินในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงนักลงทุนนิยมเลือกลงทุนในทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่จะเกิดกับมูลค่าของเงินที่ลงทุนไว้
- ช่วยกระจายความเสี่ยง
- มีทองคำอยู่ในพอร์ตการลงทุนอาจจะไม่ทำให้เกิดผลกำไรสม่ำเสมอเหมือนกับ หุ้นหรือพันธบัตร ที่มีเงินปันผล แต่ทองคำมีความเสี่ยงต่ำมากในการลงทุน
- นักลงทุนนิยมลงมีทองคำอยู่ในพอร์ตช่วยกระจายความเสี่ยงและให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว
- สินค้าระดับสากล
- ทองคำเป็นสินค้าที่ไม่มีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องเหมือนกับสกุลเงินต่าง ๆ จึงปลอดภัยจากอิทธิพลทางการเมืองและการตลาด
- ด้วยมูลค่าที่สูงกว่าเงินและชนะเงินเฟ้อได้ ส่งผลให้ทองคำเป็นที่ต้องการและยอมรับในระดับโลก
ข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาวิเคราะห์ทิศทางราคาทองคำ
- ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลราคาทองคำย้อนหลัง ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการถือครองทองคำ
- CPI (Consumer Price Index) ดัชนีราคาผู้บริโภค
- PPI (Producer Price Index) ดัชนีราคาผู้ผลิต
- PCE Price Index ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล
- ลงทุนระยะยาวถือครอง 6 เดือนขึ้นไป ควรดูราคาทองคำย้อนหลัง 7-10 ปี
- ลงทุนระยะกลางถือครองไม่เกิน 3 เดือน ควรดูราคาทองคำย้อนหลัง 3 ปี
- ลงทุนระยะสั้นควรดูปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ราคาหุ้น, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี, อัตราเงินเฟ้อ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้เป็นอย่างดี
- ข่าวสำคัญที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ควรติดตาม
- Federal Funds Rate อัตราดอกเบี้ยของเฟด
- อัตราการเติบโตของ GDP
- NFP (Non-Farm Payrolls) การจ้างงานนอกภาคการเกษตร
- Unemployment Rate อัตราการว่างงาน
- ติดตามได้ที่เว็บไซต์ forexfactory ( URL : https://www.forexfactory.com/)
- อัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยที่แท้จริง = ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีคิดเป็น % – เงินเฟ้อคาดหวัง 10 ปี จะเป็นตัวที่บอกได้ดีว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นอย่างไร หากผลตอบแทนดีราคาทองจะลง
- การแข็งค่าและอ่อนค่าของสกุลเงิน
- สกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเทรดเดอร์เทรดคู่สกุลเงิน XAUUSD โดยทั่วไปหากดอลลาร์แข็งค่าทองคำจะอ่อนค่าลง
- สกุลสำคัญอย่าง เงินยูโร ปอนด์ และเงินหยวน หากค่าเงินเหล่านี้แข็งค่าทองคำจะปรับตัวขึ้น
- ติดตามข่าวภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ
- สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
- สงครามตะวันออกกลาง
- สงครามรัสเซีย-ยูเครน
บทสรุป
อัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการขึ้นลงของราคาทองคำ แต่ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เทรดเดอร์ต้องติดตาม เช่น ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี หรือค่าเงินสกุลสำคัญ ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่สะท้อนเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างแท้จริง หากเป็นเทรดเดอร์ระยะสั้น แต่ถ้าเงินเฟ้อสูงต่อเนื่องยาวนานทองคำคือการลงทุนที่จะรักษามูลค่าไว้ได้ดีที่สุด


อธิบายข้อแตกต่าง Gold spot VS Gold future VS Gold CFD (FOREX)
เปรียบเทียบมูลค่าระหว่างทองคำกับสินทรัพย์อื่นๆ (ทอง 1 กิโล ซื้ออะไรได้บ้าง)
ทองคำมาใช้ในอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
วิธีการคาดการณ์ราคาทองคำ: ปัจจัยที่ต้องรู้
ทำความรู้จัก XAUUSD