เปรียบเทียบมูลค่าระหว่างทองคำกับสินทรัพย์อื่นๆ (ทอง 1 กิโล ซื้ออะไรได้บ้าง)

ทองคำได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าและได้รับความสนใจในการลงทุนอยู่เสมอ การซื้อทองคำในไทยมีหน่วยเป็นบาท หนึ่งบาทเท่ากับ 15.244 กรัม ทองคำ 1 กิโลกรัมเท่ากับ 65.6 บาท ราคาทองคำบาทละประมาณ 40,000 บาท เป็นเงิน 2,624,000 บาท ทองคำ 1 กิโลกรัมเท่ากับ 32.148 ออนซ์ ออนซ์ละประมาณ 2,300 ดอลลาร์ เป็นเงิน 73,940.4 ดอลลาร์

บทความนี้จะขอนำเสนอว่าทองคำมูลค่า 1 กิโลกรัมสามารถลงทุนในสินทรัพย์อะไรได้บ้าง

สินทรัพย์มูลค่าเท่ากับทองคำ 1 กิโลกรัมที่น่าลงทุนมีอะไรบ้าง

  • เงินสด
  • พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรออมทรัพย์
  • หุ้นกู้
  • อสังหาริมทรัพย์
  • กระเป๋าแบรนด์เนม
  • บิทคอยน์
  • หุ้น
เปรียบเทียบความเสี่ยง สภาพคล่องและผลตอบแทนของสินทรัพย์แต่ละประเภท ได้แก่ เงินสด, พันธบัตร, หุ้นกู้, อสังหาริมทรัพย์, กระเป๋าแบรนด์เนม, บิทคอยน์ และหุ้น โดยเรียงลำดับตามผลตอบแทน

เงินสด

  • ราคาทองคำ ณ ปี 2567 ทองคำ 1 กิโลกรัมเท่ากับ 6 บาท ราคาทองคำบาทละประมาณ 40,000 บาท จะมีมูลค่า 2,624,000 บาท
  • ราคาทองคำ ณ ปี 2557 ทองคำ 1 กิโลกรัมเท่ากับ 6 บาท ราคาบาทละประมาณ 20,000 บาท จะมีมูลค่า 1,312,000 บาท
  • จะพบว่าเวลาผ่านไป 10 ปี มูลค่าทองคำ 1 กิโลกรัมเพิ่มขึ้นถึง 100% หรือเป็นอีกหนึ่งเท่าตัวของราคาเดิม
  • ส่วนเงินสดในปี 2567 มูลค่า 2,624,000 บาท สามารถซื้อทองคำได้ 1 กิโลกรัมแต่ในปี 2557 สามารถซื้อทองคำได้ถึง 2 กิโลกรัม
  • หากเงินสดแบงก์ 1,000 บาทน้ำหนัก 1 กิโลกรัมมีจำนวน 919 ใบมูลค่า 919,000 บาท ในปี 2557 สามารถซื้อทองคำได้ 95 บาท แต่ในปี 2567 สามารถซื้อทองคำได้เพียง 22.975 บาทเท่านั้น
  • จะพบว่าเวลาผ่านไปมูลค่าของทองคำสามารถชนะเงินเฟ้อได้อย่างแท้จริง ส่วนมูลค่าของเงินสดนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • เงินสดถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องมากที่สุดในระยะสั้นแต่สำหรับระยะยาวควรเลือกลงทุนสินทรัพย์อื่นอย่างทองคำจะดีที่สุด
  • หากนำเงินสดไปฝากออมทรัพย์และฝากประจำได้ดอกเบี้ย 25-2.25% ทั้งนี้อาจจะต้องดูอัตราเงินเฟ้อด้วย
ราคาทองคำในปี 2557 ณ เดือนพฤษภาคม ราคาสูงสุดอยู่ 20,000 บาท ที่มา chinhuaheng.com
ส่วนราคาทองคำในปี 2567 ณ เดือนพฤษภาคม ราคาสูงสุดอยู่ที่ 41,050 บาท ที่มา chinhuaheng.com

พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรออมทรัพย์

  • เป็นตราสารหนี้อีกหนี่งประเภทที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ผู้ซื้อพันธบัตรจะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะถูกชำระหนี้พร้อมประโยชน์อย่างดอกเบี้ย ลูกหนี้คือรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้ออกพันธบัตร
  • พันธบัตรรัฐบาล เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลทำการระดมไปบริหารประเทศ
  • พันธบัตรออมทรัพย์ เป็นการซื้อพันธบัตรเพื่อออมทรัพย์ เป็นพันธบัตรที่ขายให้กับประชาชนทั่วไปรวมไปถึงหน่วยไม่แสวงผลกำไรของรัฐ
  • ตัวอย่าง พันธบัตรออมทรัพย์ทำการจำหน่ายโดยกระทรวงการคลัง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีรุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ต่อปี 0% และ อายุ 10 ปี และอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ต่อปี 3.4%
  • สามารถซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ในราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาทและสูงสุดไม่จำกัด แต่พันธบัตรออมทรัพย์มีวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท
  • สามารถนำไปทองคำมูลค่า 1 กิโลกรัมเป็นเงิน 2,624,000 บาท ไปซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังได้
  • พันธบัตรออมทรัพย์อายุ 5 ปี จะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปีละ 78,720 บาท รวม 5 ปีเป็นเงิน 393,000 บาท
  • พันธบัตรออมทรัพย์อายุ 10 ปี จะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปีละ 89,216 บาท รวม 10 ปีเป็นเงิน 892,160 บาท
  • เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากลูกหนี้เป็นรัฐบาล สภาพคล่องจะน้อยกว่าเงินฝากประจำแต่ผลตอบแทนสูงกว่า หากเงินเฟ้อสูงกว่าดอกเบี้ยของพันธบัตรอาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
  • ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรออมทรัพย์ประมาณ 0-3.5%

หุ้นกู้

  • เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการเสนอขายหุ้นกู้จากบริษัทต่าง ๆ ทั้งบริษัทเล็กและบริษัทใหญ่เพื่อระดมเงินทุนไปใช้ในการบริหารและทำธุรกิจ
  • ควรเลือกซื้อหุ้นกู้ตามความน่าเชื่อถือของบริษัทโดยดูจากระดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ไม่ควรเลือกซื้อกู้จากบริษัทที่ไม่รู้จัก
  • ตัวอย่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด เสนอขายหุ้นกู้ จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
  • หุ้นกู้อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 45-3.55% สามารถนำไปทองคำมูลค่า 1 กิโลกรัมเป็นเงิน 2,624,000 บาท ลงทุนได้ 2,600,000 บาท จะได้ผลตอบแทน 224,250 บาท
  • หุ้นกู้อายุ 3 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 70-3.85% สามารถนำไปทองคำมูลค่า 1 กิโลกรัมเป็นเงิน 2,624,000 บาท ลงทุนได้ 2,600,000 บาท จะได้ผลตอบแทน 312,650 บาท
  • หุ้นกู้เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้นหากบริษัทไม่ชำระตามนัด เนื่องจากผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากและพันธบัตร อีกทั้งมีการจ่ายดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งต่อปี
  • มีสภาพคล่องสูงกว่าพันธบัตรมีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ 3-7%
ตัวอย่างการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มาเว็บไซต์ trueblog.dtac.co.th

อสังหาริมทรัพย์

  • การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สามารถลงทุนได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การซื้อมาขายไปนิยมขายในรูปแบบใบจอง การซื้อมาเพื่อปล่อยเช่ารายเดือน ปล่อยเช่ารายวันสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นต้น
  • การเลือกทำเลเป็นสิ่งสำคัญมากควรเลือกซื้ออาคารหรือคอนโดที่อยู่ใกล้แหล่งความอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงานหรือสถานศึกษา เนื่องจากมีความต้องการสูง
  • ตัวอย่างนำเงินมีมูลค่าเท่ากับ 1 กิโลกรัมเป็นเงิน 2,624,000 บาท ไปลงทุนซื้อคอนโดมูลค่า 2,400,000 บาท เหลือเงิน 224,000 บาทสำหรับตกแต่งและบำรุงรักษา โดยปล่อยเช่าเดือนละ 18,000 บาท
  • จากการปล่อยเช่าจะได้ผลตอบแทนต่อปีเป็นเงิน 216,000 บาท หรือประมาณ 8% ต่อปีของเงินลงทุน
  • การปล่อยเช่าคอนโดเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างใช้รายละเอียดและต้องคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งมีการจ่ายเงินเป็นรายเดือนควรทำสัญญาให้ดีเพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัย แต่ก็เป็นการลงทุนแบบเสือนอนกิน
  • เป็นการลงทุนปล่อยเช่าคอนโดมีความเสี่ยงตามทุนที่ใช้ลงทุน สำหรับลงทุนที่ไม่มีต้นทุนที่ต้องจ่ายรายเดือนถือว่าความเสี่ยงต่ำ แต่ถ้ากู้มาลงทุนจะมีความเสี่ยงสูง ทำเลสำคัญมากต้องมีความต้องการสูง
  • มีสภาพคล่องสูงเนื่องจากรับรายได้เป็นรายเดือนโดยมีผลตอบแทนต่อปีอยู่ที่ประมาณ 8-10%

กระเป๋าแบรนด์เนม

  • การลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงสายแฟชั่น
  • กระเป๋าแบรนด์เนมมีหลากหลายแต่กระเป๋าแบรนด์เนมของ Chanel จัดได้ว่าเป็นกระเป๋ายอดนิยมของผู้หญิงทั่วโลก มูลค่าของกระเป๋าเพิ่มขึ้นทุกปี
  • ทองคำ 1 กิโลกรัมมีปริมาณ 32.148 ออนซ์ ราคาทองคำอยู่ที่ออนซ์ละประมาณ 2,300 ดอลลาร์ เป็นเงินทั้งหมด 73,940.4 ดอลลาร์
  • ตัวอย่างกระเป๋า Chanel รุ่น Classic Lamb Skin ไซส์ Medium ราคา ณ ปี 2024 อยู่ที่ 10,800 ดอลลาร์ สามารถซื้อด้วยวงเงิน 73,940.4 ดอลลาร์ จะได้กระเป๋าประมาณ 6 ใบเป็นเงิน 64,800 ดอลลาร์
  • ในปี 2019 กระเป๋า Chanel รุ่น Classic Lamb Skin ไซส์ Medium มีราคา 5,800 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปี 2024 ราคากระเป๋าเพิ่มขึ้นมาประมาณ 86% หรือเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์
  • เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ยเช่นเดียวกับทองคำ สภาพคล่องไม่สูงมากนักเนื่องจากต้องรอขาย จะพบว่าสามารถทำกำไรผ่านกระเป๋า Chanel รุ่นนี้ให้ผลตอบแทนปีละประมาณ 2%
ตัวอย่างการลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมอย่างกระเป๋า Chanel รุ่น Classic Lamb Skin ไซส์ Medium ที่สามารถทำกำไรภายใน 5 ปีได้ถึง 86% ต่อใบ และสามารถใช้ลงทุนด้วยมูลค่าทองคำ 1 กิโลกรัมได้ถึง 6 ใบ ที่มาเว็บไซต์ sothebys.com

บิทคอยน์

  • สินทรัพย์หนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลกในก็คือ บิทคอยน์
  • ในปี 2019 ราคาบิทคอยน์อยู่ที่ประมาณ 8,200 ดอลลาร์ และในปี 2024 บิทคอยน์มีราคาสูงถึง 61,806 ดอลลาร์ มีการเติบโตอย่างรวดเร็วระยะเวลาเพียง 5 ปี ราคาของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นถึง 01%
  • สามารถลงทุนด้วยทองคำมูลค่า 1 กิโลกรัมเป็นเงินทั้งหมด 73,940.4 ดอลลาร์โดยสามารถลงทุนได้ทั้งหมด มีโอกาสสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยปีละประมาณ 130%
  • บิทคอยน์ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากราคามีความผันผวนต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 30% รวมทั้งเลือกเทรดกับแพลตฟอร์มที่ให้บริการต้องมีความน่าเชื่อถือสูง เพราะว่าเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้
  • มีสภาพคล่องสูงเนื่องจากสามารถซื้อขายได้แบบ 24/7 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละประมาณ 130%
ในปี 2019 ราคาของบิทคอยน์อยู่ที่ 8,200 ดอลลาร์ และในปี 2024 ราคาของบิทคอยน์อยู่ที่ 61,806 ดอลลาร์ ระยะเวลาเพียง 5 ปี ราคาของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นถึง 652.01% สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 130% แต่เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้มีความเสี่ยงสูงต่อการลงทุน ที่มาเว็บไซต์ tradingview.com

หุ้น

  • การลงทุนในหุ้นเป็นอีกตลาดความเสี่ยงที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเสมอ โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่สามารถนำไปต่อยอดในธุรกิจ AI
  • หุ้น NVIDIA เป็นหนึ่งใน 7 หุ้นนางฟ้าอย่าง Apple, Amazon, Alphabet, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla ที่ทำกำไรมากที่สุดในโลก
  • จากข้อมูลพบว่าการเติบโตของราคาหุ้น NVIDIA ใน 5 ปีย้อนหลังพบว่ามีราคาเพิ่มขึ้นถึง 2,159.27% สามารถสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ยปีละ 85%
  • ราคาหุ้น NVIDIA ปัจจุบันอยู่ที่ 99 ดอลลาร์ต่อหุ้น สามารถลงทุนด้วยทองคำมูลค่า 1 กิโลกรัมเป็นเงินทั้งหมด 73,940.4 ดอลลาร์ ซื้อหุ้น NVIDIA ได้ 81 หุ้น ซึ่งไม่พอเนื่องจากลงทุนขั้นต่ำ 100 หุ้น
  • การลงทุนในหุ้นถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ในขณะเดียวกันให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่นักลงทุนควรติดตามข่าวเศรษฐกิจอยู่เสมอ เนื่องจากกลุ่มหุ้น 7 นางฟ้าถูกจับตามองว่าจะเกิดฟองสบู่แตกได้
  • มีสภาพคล่องสูงเนื่องจากสามารถซื้อขายได้แบบเรียลไทม์ ให้ผลตอบแทนได้เฉลี่ยปีละ 85%
หุ้น NVIDIA มีผลตอบแทนตลอดระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2019-2024 สูงถึง 2,159.27% ซึ่งสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ยถึงปีละ 431.85% เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่ม 7 นางฟ้าที่ทำกำไรมากที่สุดในโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่มาเว็บไซต์ tradingview.com

ข้อดีข้อเสียของการลงทุนในทองคำ

ข้อดี

  1. ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนสูงมากหากเปรียบเทียบราคาทองคำย้อนหลัง 10 ปีที่ราคาเพิ่มขึ้นมาขึ้น 100% ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนสูงถึงปีละ 10%
  2. ทองคำมีผลตอบแทนที่สามารถชนะเงินเฟ้อได้แน่นอน
  3. ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงเนื่องจากเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลกและจากคนทุกระดับ
  4. เป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงช่วยให้รอดพ้นจากวิกฤตทางเศรษฐกิจได้เสมอ
  5. การลงทุนในทองคำมีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำอย่างทองคำแท่งหรือทองคำรูปประพรรณไปจนถึงการเทรดทองคำในตลาด Forex

ข้อเสีย

  1. ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนแบบดอกเบี้ย
  2. ถึงแม้ว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่เป็นที่นิยมทั่วโลก แต่หากเทียบสภาพคล่องกับเงินสดก็ถือว่ามีสภาพคล่องที่น้อยกว่า
  3. ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ชอบข่าวร้ายหรือสภาวะเศรษฐกิจวิกฤต ดังนั้นในสภาวะปกติทองคำจะมีราคาลดลง

เทคนิคการลงทุนที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

  • เป้าหมายชัดเจน การกำหนดเป้าหมายและกรอบเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้นักลงทุนวางแผนการลงทุนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น การลงทุนเพื่อสร้างรายได้ หรือเพื่อการเกษียณ เป็นต้น
  • เลือกความเสี่ยงที่รับได้ เมื่อรู้เป้าหมายแล้วก็จะช่วยให้สามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเหมาะสมกับเป้าหมาย และเงินลงทุนที่ตั้งเป้าลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม
  • ลงทุนในสินทรัพย์ที่รู้จักและเข้าใจ การลงทุนที่ฉลาดก็คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่นักลงทุนรู้จักและเข้าใจธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งช่วยให้คาดการณ์ราคาได้อย่างแม่นยำ
  • สร้างวิธีคิดแบบนักลงทุนมืออาชีพ ทำการศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มประสบการณ์และสร้างแนวคิดให้เป็นนักลงทุนมืออาชีพ เช่น รู้จักเลือกจังหวะการลงทุนหรือรอให้เป็น เป็นต้น

บทสรุป

จุดเด่นสำคัญของการลงทุนในทองคำที่ดึงดูดนักลงทุนให้สนใจได้เป็นอย่างดี ก็คือ มีความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนสูง จะพบว่ามีสินทรัพย์อีกหลากหลายประเภทที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงและมีความเสี่ยงต่ำ เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ปัจจัยสำคัญของการลงทุนก็คือ เป้าหมายของการลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *